เดอะคอนเสิร์ตชวนคุย Only Monday วงดนตรี 3 ชิ้นแห่งยุค! กับอัลบั้มที่เล่าทุกความรู้สึกและคอนเสิร์ตใหญ่
เดอะคอนเสิร์ตชวนคุย 3 หนุ่มไฟแรง Only Monday ที่โลดแล่นบนเส้นทางดนตรีมากว่า 5 ปี ถ่ายทอดประสบการณ์เป็นอัลบั้มใหม่ที่เล่าทุกความรู้สึก และความสำเร็จก้าวแรกกับคอนเสิร์ตใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
Only Monday วงดนตรีอินดี้ร็อกฝีไม้ลายมือจัดจ้าน ที่หลายคนยกให้เป็นวง 3 ชิ้นเบอร์หนึ่งแห่งยุค! สมาชิกประกอบไปด้วย ธีร์ (ร้องนำ/กีตาร์), โปรด (เบส) และเฟรม (กลอง) พวกเขาเติบโตจากวัยรุ่นที่มีความฝัน สู่ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ ผ่านทั้งอุปสรรค ความเหน็ดเหนื่อย รวมไปถึงความสูญเสีย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้หล่อหลอมให้พวกเขาเติบโตพร้อมถ่ายทอดมันออกมาในอัลบั้มล่าสุด ‘Hotel Room 302’ The Concert เลยชวน 3 หนุ่มมาพูดคุยแบบใกล้ชิด เจาะลึกเส้นทางดนตรี เบื้องหลังอัลบั้มใหม่ ความสำเร็จก้าวแรกกับคอนเสิร์ตใหญ่ ‘WE ARE ONLY MONDAY CONCERT’ และเป้าหมายต่อไปที่พวกเขาอยากไปให้ถึง
จำความรู้สึกช่วงปีแรกๆ ของการเป็นศิลปินได้ไหม ตอนนั้นคาดหวังไหมว่าวงจะเติบโตขนาดนี้
เฟรม : มีอยู่แล้ว มันคาดหวังอยู่แล้วครับว่ายังไงเป็นศิลปินก็ต้องอยากดัง
ธีร์ : แต่เรามองปัจจัยเรื่องนี้เป็นเรื่องรอง เรามองเรื่องหลักในส่วนของคุณภาพเพลงมากกว่าครับ เราจะทำเพลงแบบไหนมาเสิร์ฟให้คนฟัง หรือว่าเราอยากจะนำเสนอแบบไหนให้คนเขาได้ฟังกัน คือเราไม่ได้นำฟีดแบคของแฟนเพลงกลับมาแล้วแบบว่า เอ้ย แฟนเพลงเขาอยากฟังแบบนี้เราจะทำให้ ไม่ใช่นะฮะ คือเราจะตามใจคุณแค่เฉพาะเรื่องของเนื้อหาบางส่วนเท่านั้น แต่ที่เหลือเดี๋ยวเราจะเสิร์ฟให้คุณเอง
ทำงานกันตั้งแต่อายุยังน้อย รู้สึกไหมว่าชีวิตวัยเด็กหล่นหายไปหรือไม่เลย?
โปรด : จริงๆ ก็มีบ้างครับแต่ก็มันก็ต้องแลกกัน ในช่วงนั้นเพื่อนบางคนยังเรียนอยู่ ยังทำนู่นทำนี่อยู่ แต่ว่าเราก็ทำงานแล้ว แล้วก็โตเป็นผู้ใหญ่ไวกว่าคนอื่น ถึงว่าชีวิตวัยเรียนวัยเด็กมันจะหายไปแต่ก็ไม่เป็นไรครับ ทุกวันนี้ก็มีความสุขดี
เฟรม : จริงๆ ชีวิตการทำงานของพวกผมมันไม่ได้ยากลำบากถึงขั้นไม่มีเวลานอน แต่เราแค่ต้องแบ่งสรรปันส่วนให้ดี หลังจากการทำงานกลับมาถึงบ้านก็พักผ่อน อาจจะต้องตื่นมาทำงานพรุ่งนี้อีกวัน ก็ให้มันเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ ให้เป็นเรื่องของความรับผิดชอบของตัวเราในวันพรุ่งนี้ละกัน
ธีร์ : เราก็ยังไปเที่ยวสนุก ได้ผ่อนคลายรีแล็กซ์เล่นเกมอะไรกัน เฟรมก็เล่นเกม โปรดก็ไปปั่นจักรยาน มันยังมีกิจกรรมที่พวกเราทำแล้วก็ยังสนุกกันอยู่ ไม่ได้รู้สึกว่าขาดหายหรือหล่นหายไป โชคดีด้วยที่งานที่เราทำมันเป็นสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข ก็เลยสนุกไปกับการทำงานด้วย
เวลา 5 ปีมันนานพอที่จะทำให้ความคิดเปลี่ยนกันได้ มีเรื่องอะไรบ้างที่เมื่อก่อนคิดแบบนึง ตอนนี้คิดอีกแบบ?
เฟรม : ถ้าส่วนตัวผมคิดว่าการคุยกับพี่ๆ ในค่ายอะครับ ตอนนั้นมันดูเป็นเรื่องยากมากเลย เพราะเราคิดว่าเราเด็กเกินไปที่จะคุยกับเขา แต่พออยู่ไปอยู่มาจริงๆ แล้วพวกพี่เขาคือคนที่เราควรเข้าไปคุยด้วยมากที่สุดเพราะว่าการทำงานมันขับเคลื่อนกันในองค์กร ถ้าเราไม่ปรึกษาคนในที่ทำงานแล้วเราจะไปปรึกษาใคร ปรึกษาเพื่อนด้วยกันมันอาจจะได้คำตอบมา แต่มันก็ไม่ได้คำตอบที่มีประโยชน์กับเรามากขนาดนั้น เราอยากรู้อะไรเราก็แค่ถามพี่ เราอยากทำอะไรเราก็แค่บอกพี่ในค่ายแค่นี้เองครับ
คิดว่า Only Monday ประสบความสำเร็จหรือยังในฐานะศิลปิน?
ธีร์ : สำเร็จในก้าวแรกครับ ก้าวแรกเรากำลังจะพิชิตมันในสเต็ปแรกของเรา นั่นก็คือธันเดอร์โดมที่กำลังจะถึงเหลือแค่เราไปใส่กันวันหน้างานแค่นั้นแล้ว ภาพที่อยู่ตรงหน้าเรามันจะตอบเราเองว่าสเต็ปแรกของเรามันเป็นยังไง ตอนนี้รอที่จะไปพิชิตมันอยู่ครับ
แล้วเป้าหมายต่อไปของ Only Monday ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม?
ธีร์ : การปฏิวัติอุตสาหกรรมเพลงไทยครับ คือแนวคิดนี้มันไม่ใช่แค่ Only Monday วงเดียวครับที่คิด หลายๆ วงที่อยู่ใน Gen เดียวกันหรือว่าพวกพี่ๆ ของพวกเราที่คุยกันมันก็จะมีเรื่องพวกนี้ด้วย เพราะว่าเราอยากจะยกระดับคุณภาพของเพลงในบ้านเราให้มันพัฒนาไปในทางที่อินเตอร์กว่านี้ เพราะจริงๆ ตอนนี้เราก็เห็นศิลปินไทยของเราไปดังต่างประเทศเยอะมาก แต่ผมคิดว่ามันทำได้มากกว่านี้แล้วก็สามารถที่จะทำให้มันกว้างได้มากกว่านี้อีก ผมเชื่อว่าในสักวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็วมันจะเกิดการปฏิวัติแน่นอน
จากอัลบั้ม ‘Only Monday’ มาถึง ‘Hotel Room 302’ แนวทางหรือมุมมองในการทำเพลงเปลี่ยนไปบ้างไหม?
ธีร์ : จากอัลบั้มก่อนเราต้องการเพิ่มไดนามิกในอัลบั้มของเราเฉยๆ อย่างเช่นอัลบั้มแรกเนี่ยเราจะเน้นไปทางเพลงช้า เพราะอยากให้คนรู้จักเรา เอาจริงๆ ถ้าตอบตามความจริงเลยก็คือเพลงช้า เพลงเศร้า มันขายง่ายอยู่แล้วครับ อีกอย่างหนึ่งคือผมถนัดแต่งเวย์นี้ด้วยตอนนั้นก็เลยพยายามทำให้คนรู้จัก Only Monday ให้ได้มากที่สุด แล้วก็เสิร์ฟเพลงที่เป็น Only Monday แบบจริงๆ ให้คนได้ฟังกันว่านี่คือตัวตนของเรานะ แล้วพอมาอัลบั้มสองปุ๊ป เฮ้ย เราไม่ได้มีแค่นั้นนะเรามีสิ่งนี้ด้วย เติมลูกเล่นให้มันหน่อยแล้วก็ เป็น Only Monday ในโหมดที่โตขึ้น เล่าเรื่องจริงจังมากขึ้น เล่าเรื่องที่ในมุมมองที่มันต่างจากเดิม พัฒนาจุดยืนของเราให้มันก้าวไปอีกสเต็ปครับ
‘Hotel Room 302’ อัลบั้มนี้อยากสื่อสารอะไรถึงคนฟัง?
ธีร์ : อัลบั้ม Hotel Room 302 เป็นอัลบั้มที่เราจะ Wrap-up เรื่องราวที่เจอในวัย 20 อัพ เพราะตอนอัลบั้มแรกอะมันเป็นเรื่องราวในวัย 17-18 หรือว่าแบบป๊อปปี้เลิฟอะไรอย่างนี้ มันก็จะยังมีความไม่เข้าใจในความรัก แต่พออัลบั้ม 2 เนี่ยเราก็ได้เข้าใจมากขึ้น เรียนรู้มากขึ้น เรียนรู้จากความผิดพลาด เรียนรู้จาก อ่า การสูญเสีย เนื้อหามันจะเข้มข้นมากขึ้น มันจะมี Element อะไรหลายๆ อย่างให้ทุกคนได้ฟัง มีเพลงสากลด้วย 2 เพลง แล้วก็มีเพลงที่เป็นซิงเกิลที่เราเอามา Re-arrange ใหม่ด้วย ก็คือเพลง ‘April’ กับเพลง ‘ดองเก่ง’ ลองไปฟังกันดูนะครับอัลบั้ม Hotel Room 302
แต่ละคนชอบเพลงไหนในอัลบั้ม ‘Hotel Room 302’?
เฟรม : ผมชอบเพลง ‘ยอมอยู่แล้ว’ ครับ มันโจ๊ะดีครับ เป็นเพลงที่สนุกสำหรับคนฟังด้วย แล้วตัวผมเองที่ตีกลองด้วย มันอินไปกับเพลงอะครับเวลาตีแล้วมันรู้สึกแบบมันสะใจ ตอนที่เอาเพลงมาทำกันมานั่งฟังแล้วผมก็รู้สึกว่าเพลงมันดีแล้วนะ มันกลมกล่อมแต่ว่ามันยังขาดอะไรสักอย่าง ก็เลยคุยกับไอ้ธีร์ว่าต้องมีคน Feat วะ แล้วก็ไปปรึกษาพี่โอม พี่โอมก็บอกว่าพี่ปั๊บไหม ลองพี่ปั๊บไหม
ธีร์ : ช่วงนั้นผมฟังอัลบั้ม Circle, Sense อัลบั้มเก่าๆ ของโปเตโต้ก็จะมีติดมาบ้าง ถ้าเป็นพี่ปั๊บมันก็น่าจะออกมาดีมากๆ แล้วมันก็เป็นอย่างงั้นจริงๆ ส่วนชอบเพลงอะไรมากที่สุด ผมชอบเพลง ‘Happy New Year’ ครับ เพราะมันเป็นเพลงที่เนื้อหาค่อนข้างจะเข้มข้น แล้วก็เป็นเพลงที่ผมลองใช้ภาษาใหม่ๆ การเขียนใหม่ๆ ที่ผมยังไม่เคยใช้ อย่างเช่นท่อนพรีฮุคที่บอกว่า ‘น่าเสียดายวันเวลาที่ผ่านมามันต้องเริ่มใหม่ เริ่มเคาท์ดาวน์ชีวิตที่เหลือที่ไม่มีเธออีกต่อไป’ มันคือการที่เราผ่านเคาท์ดาวน์ช่วงท้ายปีมาแล้ว แต่เรายังต้องเคาท์ดาวน์ชีวิตที่เหลือที่มันไม่มีเธอต่อไปอะไรอย่างนี้ครับ
โปรด : ผมชอบเพลง ‘ซ่อนเธอไว้ในเพลง’ ครับ ผมรู้สึกว่ามันเป็นเพลงเศร้าที่แบบว่าโรแมนติกที่สุดแล้ว อารมณ์เหมือนว่าแบบเราชอบใครอย่างเงี้ย เราจะเอาใครซ่อนไว้ในเพลงก็ได้ ฟีลๆ เหมือนหนังเกาหลี หนังเกาหลีโรแมนติก
ธีร์ : แต่จริงๆ เพลง ‘ซ่อนเธอไว้ในเพลง’ เนี่ยเป็นไอเดียมาจากเฟรม ตอนแรกเฟรมอยากทำเพลงรัก
เฟรม : อยากทำเพลงรักครับเพราะว่าตอนนั้นอินเลิฟ ก็เลยโยนไอเดียไป ธีร์มึงเคยลงเพลงในไอจีแล้วแบบว่าซ่อนใครสักคนไว้ในเพลงปะวะ มันก็เลยจัดมาเลยเพลงเศร้า! เพลงรักผมจบกัน รักกี่โมง?
ธีร์ : เดี๋ยวมี ปีหน้ารอเลย
เฟรม : มีแน่นอนครับเพราะว่าเพื่อนอินเลิฟ
เห็นคอมเมนต์บอกว่า “เป็นวงที่ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ เพราะมัวแต่ร้องไห้” อยากบอกอะไรกับแฟนคลับ?
ธีร์ : ในฐานะหัวจ่ายเพลงเศร้าผมเชื่อว่าหลายๆ คนเวลาฟังเพลง Only Monday ไม่ได้ร้องตามนะครับ ร้องไห้นั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องนะครับ ยิ่งในคอนเสิร์ตใหญ่ร้องไห้ได้เต็มที่เลยครับ ปล่อยมันได้เต็มที่เลย เพราะว่าเรามีทิชชู่แจกครับ
เฟรม : ทิชชู่ยี่ห้อ Only Monday เรามีแจกนะครับ
มีแพลนให้แฟนคลับได้ฟังเพลงสมหวังบ้างไหม?
ธีร์ : มีครับ ทำเดโม่เสร็จเรียบร้อยแล้วเหลือแค่อัดมาสเตอร์แล้วปล่อยปีหน้า ไม่ต้องห่วงนะครับได้ฟังเพลงรักแน่นอน
เฟรม : ตอนนี้ก็มีเพลงรักอยู่เพลงนึงนะ มีหนึ่งเพลงถ้วน
ธีร์ : ใช่ มันคือเพลงที่ก่อนเข้าค่าย ชื่อเพลง ‘ฉันเป็นของเธอ’ ลองไปฟังกันดูนะฮะ
ตอนที่รู้ว่าจะมี ‘WE ARE ONLY MONDAY CONCERT’ คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกรู้สึกยังไง?
ธีร์ : บอกไม่ถูกเลยฮะ มันรวมหลายอารมณ์มากเลยครับ ตกใจ
เฟรม : ดีใจ ตื่นเต้น
โปรด : ภาพตัด อารมณ์แบบว่า… รู้สึกว่าเพิ่งออดิชันเสร็จ สักพักปล่อยอัลบั้ม สักพักมีคอนเสิร์ตใหญ่แล้ว
ธีร์ : มันไวกว่าที่พวกเราคาดไว้ครับ เพราะเราปล่อยมา 2 อัลบั้มแล้วเราก็ทำคอนเสิร์ตใหญ่เลย ถือว่าค่อนข้างไว ตอนแรกกลัวเหมือนกันครับว่าเพลงมันจะพอไหมในการเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ แต่คือตอนนี้เราทำลิสต์อะไรออกมาเรียบร้อยแล้ว ก็คือเพียงพอแน่นอนแล้วก็จัดเต็ม อรรถรสแบบว่าเข้มข้นแน่นอน
เฟรม : ต้องเรียกว่าเหลือกินเหลือใช้
ธีร์ : เรามีตัดเพลงออกไปด้วยนะครับเพราะมันเยอะเกิน แต่ตอนนี้เราได้ลิสต์ที่ลงตัวแล้ว เอาเป็นว่าทุกคนจะได้ยินทุกเพลงที่ทุกคนอยากได้ยินครับ
มีเซอร์ไพรส์อะไรไหม เช่น เพลงใหม่?
ธีร์ : มีอยู่แล้วครับ
เฟรม : มันมีเพลงที่ทุกคนเฝ้ารอคอยให้ปล่อยด้วยครับ
ธีร์ : แค่ แค่ แค่อะไรนะสักอย่าง แฟนคลับเขารู้อยู่แล้ว
บัตรคอนเสิร์ต Sold Out ทั้ง 2 รอบเลยรู้สึกยังไง?
ธีร์ : ไวมาก ผมตกใจ
เฟรม : รู้อยู่แล้วครับว่ามันต้องหมดอะ
ธีร์ : ไปเวย์ขิงซะงั้นสักพักคนหมั่นไส้ (ขำ) เราดีใจมากๆ นะครับ ขอบคุณทุกคนที่อยากมาเจอพวกเรา อยากจะฟังเพลงของพวกเรา แล้วก็อยากที่จะมาร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งแรกของพวกเรา Only Monday ด้วย หวังว่าเราจะไปสนุกกันในวันคอนเสิร์ตอย่างเต็มที่ เตรียมร่างกายไว้ให้พร้อม เตรียมยาดมไว้ด้วยนะ เพราะว่าได้กระโดดไม่หยุดแน่นอนครับ
เฟรม : แต่ทิชชูไม่ต้องนะครับ เรามีให้ฮะ!
เรียกได้ว่าเป็นศิลปินรุ่นใหม่ที่คอยเสิร์ฟผลงานคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ขึ้นแท่นวงร็อกแห่งอนาคตของค่ายแกรมมี่ที่กำลังขยายฐานแฟนคลับให้เติบโต แน่นอนว่า Only Monday กำลังไปได้สวยในเส้นทางดนตรี การันตีด้วยยอดขายบัตรคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของพวกเขาที่ Sold Out ทั้งสองรอบ ซึ่งถือว่าหมุดหมายแรกของพวกเขากำลังจะสำเร็จ มาคอยติดตามหมุดหมายต่อไปที่พวกเขาอยากจะไปให้ถึง และเป็นกำลังใจให้วงดนตรีรุ่นใหม่มากความสามารถวงนี้ด้วยนะฮะ
ติดตามความเคลื่อนไหวของ “Only Monday” ได้ที่
Facebook : www.facebook.com/OnlyMondayBand
Instagram : www.instagram.com/onlymonday.band
TikTok : www.tiktok.com/@onlymonday.band