เก็บตกช็อตเด็ด “Girls Planet 999” และ 9 ไลน์อัพที่จะได้เดบิวต์ภายใต้วง “Kep1er”

“Girls Planet 999” ประกาศไลน์อัพจากผลโหวตรอบสุดท้าย 9 เมมเบอร์เตรียมเดบิวต์เป็นเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ภายใต้ชื่อวง “Kep1er” ด้วยระยะเวลา 2 ปี 5 เดือน พร้อมพาไปเก็บตกช็อตเด็ดเหตุการณ์สำคัญตลอดระยะเวลาการแข่งขันที่ผ่านมา

“Girls Planet 999” เรียลลิตี้โชว์ยอดนิยมของประเทศเกาหลีใต้ รายการเซอร์ไววัลเฟ้นหาไอดอลหญิงจากบรรดาเด็กฝึกของค่ายเพลงต่างๆ ทั้ง 3 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่น ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ MNET หลังจากประกาศเปิดตัวรายการก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีตั้งแต่เริ่มต้น มีผู้สมัครเพื่อเข้าร่วมแข่งขันมากกว่า 10,000 คน และถูกคัดเลือกจนเหลือเพียง 99 คน มาอยู่ในรายการเพื่อฝึกฝนและเดบิวต์เป็นเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ในครั้งนี้

โดยรูปแบบรายการมีความแปลกใหม่แตกต่างจากรายการเซอร์ไววัลก่อนๆ ที่ผ่านมาของ MNET เพราะมีการเปิดรับผลโหวตจากผู้ชมในประเทศต่างๆ ทั่วโลก จะแบ่งผลโหวตออกเป็น 2 ส่วนคือ ผลโหวตจากประเทศเกาหลีใต้ 50% และทั่วโลกอีก 50% ในส่วนการแข่งขันทางรายการจะการแบ่งผู้เข้าแข่งขันออกเป็นกลุ่มละ 3 คน ประกอบด้วยชาวเกาหลี จีน และญี่ปุ่นอย่างละ 1 คน ซึ่งจะถูกเรียกว่า “เซลล์” หากเซลล์ไหนที่มีคะแนนโหวตต่ำก็จะตกรอบทั้งเซลล์ทันที นอกจากนี้ยังมีการจัดอันดับตามคะแนนโหวตรายบุคคลสูงสุด 9 คน ที่เรียกว่า “Planet Top 9” และผู้เข้าแข่งขันทั้ง 9 คนนี้สามารถจัดสมาชิกเซลล์ของตนใหม่เพื่อลดโอกาสในการถูกคัดออกได้ เมื่อสิ้นสุดการแข่งขันผู้ที่ได้รับการโหวตสูงสุด 9 อันดับแรกจะได้เดบิวต์ทันทีโดยไม่คำนึงถึงสัญชาติ

ตลอดระยะเวลาการแข่งขันกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 99 คนที่มีความแตกต่างทั้งด้านภาษาและวัฒนธรรม แต่มีความมุ่งมั่นและเป้าหมายเดียวกันคือการเดบิวต์เป็นสมาชิกโกลบอลเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ ซึ่งแต่ละมิชชั่นที่ผ่านมาก็ได้แสดงถึงความสามารถ และศักยภาพของผู้เข้าแข่งแต่ละคน ทำให้บทสรุปของรายการ “Girls Planet 999” ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก และในที่สุดก็เดินทางมาถึงบทสรุปผลโหวตรอบไฟนอลของ 9 สมาชิกที่จะได้เดบิวต์เป็นเกิร์ลกรุ๊ปภายใต้ชื่อวง “Kep1er” (เคปเพลอ) ซึ่งมาจากคำผสมของคำว่า “Kept” แปลว่าความฝันที่พวกสาวๆ รักษาไว้ และเลข 1 หมายถึงการรวมตัวและกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน

นอกจากนี้ยังมีความหมายที่เชื่อมโยงกับชื่อของนักดาราศาสตร์ชาวเยอรมันผู้ค้นพบกฏการโคจรรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ในรอบวงโคจรใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ ตามความหมายที่นำเสนอในรายการคือดาวเคราะห์ที่ได้รับแสงอาทิตย์ 2 ดวงด้วยกันคือ แสงแห่งความหวังสำหรับสาวๆ ที่ต้องการเดบิวต์ รวมกับแสงที่มาจากแฟนๆ ทั่วโลก สมกับเป็นที่มาของชื่อรายการ Girls Planet ครีเอทได้สุดปัง แถมมีสตอรี่ที่น่าสนใจ

โดยมีรายชื่อสมาชิกทั้ง 9 ดังนี้
อันดับที่ 1 : คิม แชฮยอน (K) – 1,081,182 คะแนน
อันดับที่ 2 : ฮยูนิงบาฮี (K) – 923,567 คะแนน
อันดับที่ 3 : ชเว ยูจิน (K) - 915,722 คะแนน
อันดับที่ 4 : คิม ดายอน (K) - 885,286 คะแนน
อันดับที่ 5 : ซอยองอึน (K) – 781,657 คะแนน
อันดับที่ 6 : คังเยซอ (K) – 770,561 คะแนน
อันดับที่ 7 : เอซากิ ฮิคารุ (J) – 713,322 คะแนน
อันดับที่ 8 : ซากาโมโตะ มาชิโระ (J)  – 708,149 คะแนน
อันดับที่ 9 : เฉินเสี่ยวถิง (C) – 700,663 คะแนน

ขอแสดงความยินดีกับสมาชิกทั้ง 9 คนที่จะได้เดินตามความฝันการเป็นไอดอลหน้าใหม่ เตรียมพร้อมโปรโมตกิจกรรมต่างๆ ในระดับโกลบอล รวมถึงเป็นกำลังใจให้กับผู้เข้าแข่งขันที่หลุดโผไปอย่างน่าเสียดาย แน่นอนว่าสาวๆ “Girls Planet 999” ได้ผ่านเรื่องราวมามากมายกว่าจะมาถึงวันนี้ The Concert ขอพาเก็บตกช็อตเด็ด Recap เหตุการณ์สำคัญๆ ตลอดระยะเวลาการแข่งขันที่ผ่านมากันสักหน่อยดีกว่า ว่ามีโมเมนต์ไหนเดือดๆ สะเทือนโซเชียลบ้าง!

เริ่มร้อนแรงตั้งแต่อีพีแรกเมื่อผู้เข้าแข่งขัน C Group ทีมที่นำโดย “ฝูหย่าหนิง” ได้นำเพลง Helicopter ของวง CLC มาทำการแสดง ซึ่งหนึ่งในสมาชิกของวง CLC อย่าง “ชเว ยูจิน” ก็ได้มาเข้าร่วมการแข่งขันในรายการด้วยเช่นกัน ทำให้การแสดงสเตจนี้เป็นที่สนใจของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ รวมถึงมาสเตอร์ในรายการ แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อฝูหย่าหนิงได้บลัฟใส่ยูจินซึ่งเป็นเจ้าของเพลงด้วยความมั่นใจว่าทำได้ดีกว่าต้นฉบับ รวมถึงร้องเพลงในท่อน “we go up helicopter then i make hella noise for the take off” พร้อมเสริมด้วยว่า “but you don’t” มีความหมายเป็นนัยๆ ว่า “เราปัง เราเริ่ด แต่คุณไม่” งานนี้ยูจินก็เลยตอบกลับด้วยการเต้นโชว์ไปหนึ่งแมตซ์ ซึ่งทำให้แฟนๆ ที่ได้ดูรายการนี้ไม่พอใจกับการกระทำของฝูย่าหนิง เพราะเกาหลีขึ้นชื่อเรื่องการเคารพรุ่นพี่เป็นอย่างมาก ทำให้ฝูหย่าหนิงมีกระแสในเชิงลบตั้งแต่แรกเริ่ม แต่นั่นก็เป็นเพราะซีนดราม่าในตำนานซีนนี้เองที่ทำให้รายการ “Girls Planet 999” แมสขึ้นมากในฝั่งอินเตอร์

แต่ถ้าหากได้ติดตามความสัมพันธ์ของสองสาวแล้ว จะเห็นเลยว่ามีพัฒนาการด้านการมอบความรักให้กันมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่น ตอนที่มีการจัด Fan Meet แบบ Car Meeting มีการโชว์เพลง Helicopter ของสาวๆ C Group ซึ่งช่วงกลางเพลง ยูจินเองก็อดไม่ได้ที่จะขอมาร่วมแจมในการแสดงครั้งนี้ด้วย เป็นภาพน่ารักที่หาดูได้ยาก ทำให้เห็นว่าจริงๆ แล้วทั้งคู่นั้นสนิทสนมกัน และไม่ได้เกาเหลากันอย่างที่ชาวเน็ตคิด

หลังจากกระแสของรายการได้จุดติดขึ้นก็เริ่มเข้าสู้การแข่งขันในรอบ Connect Mission ที่จะให้แต่เซลล์รวมตัวกันเป็นกลุ่ม 9 คนเพื่อทำการแข่งขันแบบแบทเทิล และหาผู้ชนะ 5 ทีมที่จะได้คะแนนโหวตเพิ่ม ไม่เพียงแค่นั้นในบรรดา 5 ทีมที่ชนะทีมที่ทำได้ดีที่สุดจากการเลือกของมาสเตอร์จะได้ไปแสดงที่รายการ M Countdown อีกด้วย ทำให้ในรอบนี้ผู้เข้าแข่งหลายๆ คนก็เริ่มฉายแววความเก่งขึ้นมา และทีมที่ดีที่สุดจากรอบ Connect Mission ก็คือ Yes or Yes ทีม 1 นั่นเอง



ก่อนจะเข้าสู่การแข่งขันในรอบ Combination Mission ก็ได้มีการคัดผู้เข้าแข่งขันจาก 99 คนให้เหลือเพียง 54 คน และประกาศผลจัดอันดับ Top 9 เป็นครั้งแรก ซึ่งมีผลตามลำดับดังนี้ 1.คาวากูชิ ยูรินะ 2.เซินเสี่ยวถิง 3.เอซากิ ฮิคารุ 4.ชเวยูจิน 5.ซากาโมโตะ มาชิโระ 6.ซูรุ่ยฉี 7.ไช่บิง 8.คังเยซอ 9.คิมแชฮยอน เตรียมพร้อมเข้าสู่มิชชั่นถัดไป ซึ่งใน Combination Mission ผู้เข้าแข่งขันต้องทำการยุบเซลล์ ซึ่งหมายความว่าจะได้คะแนนแบบเดี่ยวๆ และแบ่งทีมทำการแสดงใหม่เป็นกรุ๊ปแบบ 3 คน 6 คน และ 9 คน ทีมที่ชนะในแต่ละกรุ๊ปจะได้รับคะแนนรับเพิ่ม

โดยบทสรุปรอบ Combination Mission ทีมที่ชนะในทีมแบบ 3 คนคือทีม Mafia In the morning ส่วนทีม 6 คนคือทีม Fate และทีม 9 คนคือทีม Salute



ผ่านมากว่าครึ่งทางก็ได้เวลาเข้าสู่การประกาศผลจัดอันดับ Top 9 เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งมีอันดับดังนี้ 1.เซินเสี่ยวถิง 2.คาวากูชิ ยูรินะ 3.ซากาโมโตะ มาชิโระ 4.เอซากิ ฮิคารุ 5.ชเวยูจิน 6.ซูรุ่ยฉี 7.หวงซิงเฉียว 8.ไช่บิง 9.คิมแชฮยอน และคัดผู้เข้าแข่งให้เหลือเพียง 27 คน



แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อ “สวี่จื่อหยิน” ตัดสินใจออกจากการแข่งขันเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ทำให้ในรอบต่อไปจะมีผู้เข้าแข่งขันเพียง 26 คนเท่านั้น ส่งผลให้ในการแข่งขันรอบ Creation Mission ต้องจัดสมาชิกทีมใหม่เนื่องจากจำนวนสมาชิกขาดหรือเกินไปจากผลของการประกาศจัดอันดับ โดยในการแข่งขันรอบนี้สาวๆ จะได้แสดงและร้องเพลงที่แต่งใหม่ทั้งหมด โดยที่การกำหนดสมาชิกของแต่ละทีม Guardian Planet จะเป็นผู้คัดเลือกจากการโหวต โดยแบ่งออกคอนเซปต์เพลงใหม่ที่มีชื่อเพลงดังนี้ Shoot!, Snake, U+Me=Love และ Utopia



ซึ่งในมิชชั่นรอบนี้เองที่แต่ละทีมต้องทำภารกิจ Planet Teamwork Mission โดยให้แต่ละทีมทำการแสดงเพลงของตัวเองในสถานที่ที่ต่างกัน แต่จุดที่เป็นประเด็นและทำเอาแฟนรายการงงไม่ไหวคือการให้ทีม Shoot! เดินทางไปแสดงที่อพาร์ตเม้นต์ของผู้เข้าแข่งขัน “คิม ดายอน” ซึ่งพวกเขาได้พบกับแม่ของเธอและเขียนจดหมายถึง “ดายอน” ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกในทีมด้วยซ้ำ ด้านพี่สาวชาวเน็ตก็ถึงกับตั้งกระทู้ถามว่า “ทีม Shoot ได้อะไรจากการไปทัวร์บ้านดายอน” ทำให้มีกระแสโยงถึง MNET ในประเด็นที่ว่าต้องการดันหรือให้ซีนดายอนเกินหน้าผู้เข้าแข่งคนอื่นหรือไม่?

หลังจากทำภารกิจเรียบร้อยก็ถึงคราวทำการแสดงรอบ Creation Mission เริ่มจากทีม “Shoot!” ก็ได้แสดงภาพลักษณ์อันสดใสออกมาได้เป็นอย่างดี จนมาสเตอร์ทั้ง 6 คนหลงใหลในเสน่ห์ของสาวๆ 

ต่อด้วยทีม “Utopia” เป็นโชว์ที่น่าประทับใจสุดๆ ภายใต้การนำทีมของ “คิมโบรา” เมนโวคอลที่ได้แจ้งเกิดไปตอนเพลง The Fifth Season ส่งให้สาวน้อยคนนี้ได้ซีนปังไปอีกหนึ่งซีน

ตามมาด้วยทีม “Snake” ทีมที่รวมคนอับดับท็อปเข้าไว้ด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่ควรจะเป็นเมื่อ “ซูรุ่ยฉี” เกิดอาการวิตกกังวัลหลังมีการเปลี่ยนตำแหน่งเมนโวคอล โดย “ฝูย่าหนิง” ได้รับพาร์ทนี้ไป แต่น่าเสียดายที่การแสดงบนเวทีพาร์ท High Note เธอทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ภาพรวมก็ทำให้เหล่ามาสเตอร์ประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นซีนทำเสียงซื๊ดของ “ดายอน” สีหน้าการแสดงท่อน Killing Part ของ “เฉินเสี่ยวถิง” รวมถึงท่าทานอาหารและเช็ดปากที่แฟนๆ ทุกคนจดจำได้ของสาว “เอซากิ ฮิคารุ”  ในท่อน 이건 마지막 Dish, um

ปิดท้ายด้วยทีม “U+Me=Love” ที่ต้องบอกว่าเกินความคาดหมาย ทำการแสดงออกมาได้ดีและลงตัวสุดๆ รวมถึงมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับทีมอื่นๆ ทำให้คว้าอันดับ 1 มาได้ด้วย 94.17/100 คะแนน ซึ่งสมาชิกของทีมนี้ต่างเป็นสมาชิกที่ถูกคัดออกจากเพลง Snake 2 คน และ Utopia 1 คน เป็นการเอาชนะที่สมศักดิ์ศรีตามที่สาวๆ ทั้ง 3 ได้เคยพูดไว้ในรายการว่าจะเอาชนะทีมที่ตัวเองถูกคัดออกให้ได้

ตามมาด้วย O.O.O Mission ที่ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 26 คนได้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ทีม ผู้เข้าแข่งขันในทีมคนไหนที่มียอดถูกใจบนยูทูปภายใน 24 ชั่วโมงมากที่สุดจะได้รับคะแนนเพิ่ม 90,000 คะแนน ซึ่งในแต่ละทีมก็มีปัญหาแตกต่างกันออกไป แต่ดูเหมือนว่าในมิชชั่นนี้ทีมที่ 2 จะมีปัญหาใหญ่เพราะขาดความมั่นใจในการนำทีม แต่ก็สามารถลุล่วงไปได้ด้วยดีจากการนำทีมของ “เมย์” ผู้เข้าแข่งขันจาก J Group ซึ่งผู้ชนะในมิชชั่นนี้ ได้แก่ “ชเว ยูจิน” จากทีม 1 “ฮยูหนิง บาฮีย์” จากทีม 2 และ “ซอ ยองอึน” จากทีม 3





รวมถึงมีการประกาศผลจัดอันดับ Top 9 เป็นครั้งที่ 3 ซึ่ง “เซินเสี่ยวถิง” ก็ยังครองอันดับ 1 ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แต่ที่น่าตกใจและน่าเห็นใจสุดๆ คงจะเป็น “ไช่ปิง” ที่อันดับหลุดไปไกลถึงอันดับที่ 26 เนื่องจากการออกอากาศในตอนที่ 8 ช่วงคัดเลือกลีดเดอร์ทีม Snake ทางรายการขึ้นซับผิดจนทำให้ไช่ปิงโดนกระแสโจมตีอย่างหนัก นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ไช่ปิงไม่ได้เข้ารอบสุดท้าย ทั้งๆ ที่เคยติด Top 9 ในการประกาศอันดับทั้งสองครั้งที่ผ่านมา

ก่อนจะถึงวันไฟนอลทาง MNET ได้เปิดเผยอันดับของผู้เข้าแข่งขันระหว่างการโหวตรอบสุดท้ายออกมา ทำเอา Planet Guardians ช็อคไปตามๆ กัน เมื่ออันดับ Top 9 ได้มีการปรับเปลี่ยนไปจากผลรอบ 2 แบบสุดๆ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนการนับคะแนนให้สามารถเลือกโหวตได้เพียงคนเดียว และคิดคะแนน 50% จากเกาหลี และอีก 50% จากอินเตอร์ ทำให้ไม่แปลกใจที่เด็กฝึกฝั่ง K Group จะติด 8 อันดับรวด มีเพียง “ซูรุ่ยฉี” จาก C Group ที่ติดอันดับ 9 โดยอันดับ 1 ได้แก่ “คิมแชฮยอน” อดีตเด็กฝึด SM และเคยฝึกรวมกับวง aespa ทำให้บรรดาแฟนคลับ aespa ทุ่มโหวตให้กับเธอ

ในการออกอากาศตอนสุดท้ายของรายการ “Girls Planet 999” มาพร้อมกับ Completion Mission ที่ผู้เข้าแข่งขันต้องขึ้นแสดงในเพลง Shine โดยแบ่งเป็น 2 ทีมเพื่อแบทเทิลกันคว้าสิทธิ์ในการแสดงท่อนสุดท้ายของเพลงเพียงทีมเดียว ซึ่งเป็นช่วงเวลาสุดท้ายบนสเตจที่จะมีผลต่อการโหวตระหว่างการออกอากาศของรายการ

นอกจากนี้แฟนๆ ยังจะได้รับฟังเพลงบัลลาดที่แต่งใหม่ ขับร้องโดยสาวๆ ทั้ง 18 คนในเพลงที่มีชื่อว่า Another Dream เพลงที่บอกเล่าถึงอดีตที่ยากลำบากและการเดินทางสู่อนาคตที่สดใสของสาวๆ ทั้ง 99 คน

บอกเลยว่าที่เรารวบรวมมาเป็นแค่ความสนุกเพียงเล็กน้อย สามารถไปติดตามชมรายการ “Girls Planet 999” แบบเต็มๆ พร้อมซับไทยทั้ง 12 EP ได้ที่ iQiyi >> www.iq.com แล้วคุณจะตกหลุมรักสาวๆ ทั้ง 99 คนนี้อย่างแน่นอน



รวมถึงหลังจากนี้ “Kep1er” เกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่จะเตรียมมุ่งโปรโมตกิจกรรมต่างๆ ในระดับโกลบอล มาร่วมเป็นกำลังใจให้กับทั้ง 9 คนได้เดินตามความฝัน พร้อมรอติดตามผลงานปังๆ ต่อไป รับรองเลยว่าต้องเป็นวงที่ไปได้ไกลในระดับอินเตอร์!

ติดตามความเคลื่อนไหวของ “Kep1er” ได้ที่ www.facebook.com/watch/official.kep1er และ https://twitter.com/official_kep1er