ฉีกกรอบคอนเสิร์ตรับมือโควิด

ฉีกกรอบคอนเสิร์ตรับมือโควิด

เมื่อสถานการณ์มันบีบให้เอาตัวรอด ทำให้คนคอนเสิร์ตต้องทำลายกำแพงเพื่อพลิกโฉมรูปแบบการนำเสนอให้ตอบโจทย์มากขึ้นเพราะในเมื่อ "เราฟังเพลงออนไลน์ได้ ฟังเพลงในรถได้ แล้วทำไมคอนเสิร์ตจะทำแบบนั้นบ้างไม่ได้ล่ะ" วันนี้ The Concert จึงพาทุกคนมาดูความคิดสุดสร้างสรรค์ในการปรับตัวของอุตสาหกรรมคอนเสิร์ต เพื่อตอกย้ำว่าถ้าเราคิดจะไม่ยอมแพ้ เราก็ต้องสู้จนกว่าจะชนะ!!!



หากพูดถึงการ Streaming Concert ช่วงนี้ก็คงไม่ได้หวือหวาหรือเป็นที่แปลกใจแต่อย่างใดเพราะถือเป็น Basic ขั้นพื้นฐานที่ศิลปินและผู้จัดทั่วโลกต้องปรับตัวและหันมาใช้วิธีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นการจัดคอนเสิร์ตเล็กๆที่ให้ศิลปินเล่นจากที่บ้านหรือเน้นไปที่การพูดคุยกับแฟนๆ แต่ที่เราจะพูดถึงวันนี้คือคอนเสิร์ตที่เป็นคอนเสิร์ตออนไลน์เต็มรูปแบบจริงๆที่จะจัดเต็มทั้งแสง สี เสียง และเวที กับคอนเสิร์ต “Whal & Dolph Online Market Concert” ซึ่งไฮไลต์พิเศษก็คือผู้ที่ซื้อบัตรเข้าชมทุกคนจะสามารถร่วมร้องเพลงและพูดคุยกับศิลปินได้ตลอด โดยใบหน้าของผู้เข้าชมทั้งหมดจะถูกฉายขึ้นจอขนาดยักษ์ตลอดเวลา เพื่อสร้างอารมณ์ร่วม เหมือนกับว่าคนดูได้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดง




หลายๆคนคงนึกภาพออกเวลาเราไปซื้ออาหารและมีจุด Drive thru ที่อำนวยความสะดวกให้กับเราโดยที่ไม่ต้องลงไปจากรถ ซึ่งในช่วงสัปดาห์ก่อนทางฝั่งยุโรปก็มีการอภิปรายและลงคะแนนเสียงภายในรถแบบนี้เช่นกัน โดยจะให้ผู้ที่เข้าร่วมนั่งฟังอภิปรายบนรถ นอกจากนี้ยังมีการเปิดให้ลงคะแนนได้โดยจะวัดจากเสียงกดแตร อีกทั้งประเทศเกาหลีก็ยังมีการฉายภาพยนตร์แบบ Drive-In แบบนี้อีกด้วย ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ที่ประเทศเดนมาร์กก็ได้นำวิธีการแบบนี้มาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมคอนเสิร์ต โดยพวกเขาจัดแสดงแบบไม่ใช้เครื่องขยายเสียง แต่ใช้เครื่องส่งสัญญาณ fm แทน เพื่อให้คนขับรถมาดูแล้วจูนคลื่นรับสัญญาณจากวิทยุในรถของแต่ละคน ซึ่งแน่นอนว่าบรรยากาศที่ได้รับคงไม่เท่าการที่เราได้ออกมาสัมผัสด้วยตัวเองแน่ๆ




ถือเป็นปรากฎการณ์ที่เป็นอีกขั้นและเหนือจินตนาการเอามากๆ เพราะมันเป็นการเปิดความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินในการออกแบบโชว์ได้อย่างหลุดโลกและเต็มที่ อย่างล่าสุดกับคอนเสิร์ต Astronomical ของ Travis Scott ในเกม Fortnite ที่มียอดเข้าชมสูงถึง 12.3 ล้านคน (นับรวมการแสดงทุกรอบ) ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในการจัดคอนเสิร์ตในเกม โดยก่อนหน้านี้ก็มีการจัดคอนเสิร์ตในเกม Fortnite ครั้งแรกไปแล้ว ที่ได้ดีเจหัวขนม Marshmello มาเปิดคอนเสิร์ตในเกม แต่ก็ไม่ได้อลังการหรือหลุดโลกเท่าของ Travis Scott หากมองอีกมุมหนึ่งนี่อาจเป็นช่องทางการจัดคอนเสิร์ตในอนาคตที่ดีที่สามารถดึงจินตนาการของผู้จัดและตัวศิลปินออกมาถ่ายทอดได้อย่างเต็มเปี่ยม




เป็นการนำหยิบยกเทคโนโลยี AR (Augmented Reality Technology) ที่จะช่วยนำโลกของความเป็นจริงมาบรรจบกับโลกเทคโนโลยี โดยเจ้าแรกที่นำระบบ AR นี้มาใช้ในอุตสาหกรรมคอนเสิร์ตคือ "Quarantour" แอปพลิเคชันที่จะแสดงภาพเสมือนจริงของคอนเสิร์ตที่อัดล่วงหน้าแล้วมาแสดงในรูปแบบ 3 มิติ ผ่านหน้าจอมือถือซึ่งเราสามารถตั้งเวทีการแสดงไว้ตรงส่วนไหนของบ้านก็ได้ แต่ถ้าจะให้ดีเราเชื่อว่าต้องนำระบบนี้มาต่อยอดให้สามารถดูการแสดงสดในรูปแบบ 3 มิติพร้อมกันทั่วโลกได้ น่าจะเจ๋งเอามากๆ




อันนี้น่าจะเหมาะกับในช่วงที่โควิดสามารถควบคุมได้แต่ยังไม่หายไป 100% โดยคอนเสิร์ตประเภทนี้จะให้หูฟังแก่ผู้ร่วมงานและไม่ว่าคุณจะอยู่ใกล้หรือไกลดีเจแค่ไหนคุณก็จะได้ยินบีทเหมือนกันทุกคน  ซึ่งงานแรกของไทยที่จัดในรูปแบบนี้คืองาน Silent disco ที่จัดโดย Nylon คอนเซปต์ของงานคือจะให้หูฟังคนละอัน โดยเจ้าหูฟังนี้สามารถปรับสีหรือช่องได้เพื่อเป็นการเลือกฟังแนวเพลงต่างๆของดีเจหลากสไตล์ แต่ที่มันเจ๋งมากๆคือไม่ว่าคุณจะฟังเพลงต่างกันอยู่แต่คุณก็สามารถมาสนุกด้วยกันได้แบบไม่แบ่งแยก

แต่ทางที่ดีถ้าจะให้เข้ากับสถานการณ์ในช่วงนี้ก็สามารถนำไอเดียนี้มาต่อยอดได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการยืนโยกให้ห่างกันสัก 2 เมตร พร้อมสวมใส่หน้ากากอนามัย รณรงค์ให้คนดื่มแก้วใครแก้วมัน และสอนเต้นท่าล้างมือสู้โควิดด้วยกัน ไม่แน่นะจุดเริ่มต้นจากไอเดียนี้จะพาเราไปสู่คอนเสิร์ตในยุค New Normal ก็ได้