Gala Music แพลตฟอร์มซื้อขาย NFT Music ที่มาพร้อมโมเดล Listen to Earn
ก้าวใหม่ของอุตสาหกรรมดนตรี! เมื่อนำเทคโนโลยีบล็อกเชน และ Non-Fungible Token (NFT) มาปรับใช้กับวงการเพลง Gala Music แพลตฟอร์มที่มาพร้อมโมเดล Listen to Earn สร้างรายได้ให้ทั้งคนทำเพลงและคนฟัง
เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินคำว่า NFT Music กันมาบ้างแล้ว นับเป็นหนึ่งใน NFT Asset ที่กำลังมาแรง ได้รับความสนใจจากทั้งศิลปินชื่อดัง เหล่าแฟนคลับของศิลปิน รวมถึงนักลงทุนจำนวนมาก ทำให้มีหลายแพลตฟอร์มเริ่มหันมาเปิดช่องทางซื้อขาย NFT Music เพื่อเป็นการสนับสนุนศิลปินในอุตสาหกรรมดนตรี โดยแพลตฟอร์มที่มีแนวคิดและโมเดลน่าสนใจคงต้องยกให้ Gala Music ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวสำคัญที่น่าจับตามองเมื่อมีการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน และ Non-Fungible Token (NFT) มาปรับใช้กับวงการเพลง ซึ่งแพลตฟอร์ม Gala Music คืออะไร? ศิลปิน ผู้ฟัง และนักลงทุนจะได้ผลตอบแทนในรูปแบบไหน? เรามาทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กันเลย
แพลตฟอร์ม Gala Music คืออะไร?
Gala Music ถูกขยายมาจากแพลตฟอร์มเกม NFT ชื่อดังที่หลายคนรู้จักกันดีอย่าง Gala Game ด้วยแนวคิดที่อยากนำวงการเพลงขึ้นมาอยู่บนบล็อกเชน ในรูปแบบบริการสตรีมเพลงคล้ายกับแอปพลิเคชัน Spotify ที่รวบรวมเพลงจากหลากหลายศิลปินมาให้ผู้ใช้งานเลือกฟัง แต่มีความแตกต่างจากแพลตฟอร์มสตรีมเพลงทั่วไป ตรงที่มีลักษณะการทำงานแบบ Decentralized ที่ศิลปินและผู้ใช้งานสามารถสร้างรายได้จากแพลตฟอร์มได้ รวมถึงนำผลงานเพลงมาแปลงเป็น NFT เพื่อแก้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์จากผู้อื่นอีกด้วย
ระบบนิเวศภายในแพลตฟอร์ม Gala Music
1. ศิลปินสามารถลงขายสินค้า NFT บนแพลตฟอร์ม Gala Music ได้โดยไม่ติดข้อจำกัดจากค่ายเพลง ซึ่งผลงานที่นำมา Drop อาจจะเป็น เพลง อัลบั้ม ของสะสม ตั๋ว หรือสิทธิพิเศษอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้กับแฟนคลับโดยเฉพาะ ทำให้แฟนคลับมีทางเลือกที่เข้าถึงศิลปินได้ง่ายกว่าเดิม
2. แฟนคลับและผู้สะสมสามารถสนับสนุนศิลปินที่ชื่นชอบด้วยการซื้อ NFT Music ของศิลปินผ่านแพลตฟอร์ม Gala Music
3. ศิลปินและเจ้าของ NFT Music จะสามารถสร้างรายได้จาก Gala Music ด้วยการเป็น Player Node หรือ Fan Node
4. Gala Music มาพร้อมโมเดลแบบ Listen to Earn
Music Node ในแพลตฟอร์ม Gala Music คืออะไร?
Gala Music ใช้ระบบ Node Ecosystem เข้ามาช่วยในการรันแพลตฟอร์ม ทำให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัย โดย Music Node เปรียบเสมือนตู้เพลงทำหน้าที่เป็นคลังในการเก็บเพลง และเล่นเพลงให้คนทั่วโลกฟัง โดยเจ้าของ Node จะได้รับผลตอบแทนเป็น Gala Music Token จากการที่มีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มเข้ามาฟังเพลงบน Node นั่นเอง ซึ่งมีทั้งหมด 2 ประเภทดังนี้
1. Player Node ทำหน้าที่เป็นเปรียบเสมือนตู้เพลงทั่วไป เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้ามาเลือกฟังเพลงอะไรก็ได้ ซึ่งเจ้าของ Player Node จะต้องโฮสต์ NFT และทำหน้าที่รัน Music Node จึงจะได้รับผลตอบแทนเป็น Gala Music Token จากการที่มีคนมาฟังเพลงที่ตู้เพลงของเรา
2. Fan Node เป็นโหนดพิเศษที่จะสร้างขึ้นมาเพื่อแฟนคลับของศิลปินโดยเฉพาะ ทำหน้าที่เป็นตู้เพลงสำหรับศิลปินคนโปรด ที่จะเล่นเพลงคนของศิลปินคนนั้นคนเดียว ซึ่งเจ้าของ Fan Node จะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ จากศิลปิน รวมถึงยังสามารถโฮสต์ NFT และรับ Gala Music Token เช่นเดียวกับ Player Node ได้อีกด้วย
ล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์มีการเปิดขาย Player Node ในราคา 5,218 Gala หรือประมาณ 40,000 บาท หากใครคิดจะซื้อตอนนี้คงต้องบอกว่าไม่ทัน เพราะได้จำหน่ายหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังเหลือแบบ Fan Node ที่ยังไม่ได้เปิดขายใครที่สนใจต้องรอติดตามกันอีกที
โมเดล Listen to Earn ของ Gala Music คืออะไร?
สำหรับใครที่ไม่ได้เป็นเจ้าของ Node และไม่ได้เป็นเจ้าของ NFT ก็ยังสามารถรับรายได้จากโมเดล Listen To Earn ได้ เพียงแค่สตรีมเพลงของศิลปินหน้าใหม่เพื่อเป็นการสนับสนุนผลงาน ก็จะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบรีวอร์ด ซึ่งแนวคิด Listen to Earn ถูกปรับมาจากแนวคิด Play to Earn หรือการสร้างรายได้จากการเล่นเกม เมื่อนำมาปรับใช้ในอุตสาหกรรมเพลง Gala Music จึงมาพร้อมโมเดลการสร้างรายได้จากการฟังเพลง แต่เงื่อนไขจะเป็นอย่างไรคงต้องรอทาง Gala Music สรุปอีกครั้งในอนาคต
Gala Music จะสร้างรายได้ให้แก่นักลงทุนและศิลปินได้อย่างไร?
1. การเป็นศิลปินบนแพลตฟอร์ม Gala Music
2. การเป็นเจ้าของ NFT Music เมื่อเราถือครองผลงาน NFT Music Track หรือ NFT Music Album ก็จะได้รับผลตอบแทนจากการที่มีคนมาฟังเพลง หรืออัลบั้มที่เราเป็นเจ้าของ
3. การรัน Music Node ก็คือการเป็นเจ้าของตู้เพลง จะได้รับผลตอบแทนจากการที่มีคนมาฟังเพลงที่ตู้เพลงของเรา
4. โมเดล Listen To Earn จากการสตรีมเพลงบนแพลตฟอร์ม Gala Music ก็จะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบรีวอร์ด
เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มีแนวคิดและโมเดลที่น่าสนใจมาก ทั้งศิลปินและแฟนคลับของศิลปินต่างได้ผลประโยชน์แบบ win-win ทั้งสองฝ่าย จากนี้การฟังเพลงจะไม่ใช่เพื่อความบันเทิงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ยังสร้างประสบการณ์ความพิเศษอื่นๆ เช่น การสะสม NFT ของศิลปิน การสร้าง Community หรือฐานแฟนคลับ และเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้อีกด้วย
ซึ่งในปัจจุบันมีศิลปินชื่อดังอย่าง Snoop Dog และ Jane Handcock ที่เข้าร่วมแพลตฟอร์มแล้ว ในอนาคตจะต้องมีวงดนตรีระดับโลกมาเข้ามาร่วมด้วยอีกแน่นอน รวมถึงศิลปินหน้าใหม่ที่เตรียมจะแจ้งเกิดผ่านแพลตฟอร์มนี้อีกเพียบ อย่างไรก็ตาม Gala Music ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการพัฒนา The Concert จึงไม่แนะนำในการลงทุนแต่อย่างใด เป็นเพียงการนำข้อมูลมาแบ่งปันเท่านั้น และขอเน้นย้ำว่าทาง Official ได้แจ้งไว้อย่างชัดเจนว่า Music Node ไม่ใช่การลงทุน และการซื้อ Music Node จะไม่มีการคืนเงินทุกกรณี
ขอบคุณข้อมูลจาก :